อินฟินิตี้ เมื่อรักนี้มาบรรจบ INFINITY - นิยาย อินฟินิตี้ เมื่อรักนี้มาบรรจบ INFINITY : Dek-D.com - Writer
×

    อินฟินิตี้ เมื่อรักนี้มาบรรจบ INFINITY

    เธอเป็นแค่เครื่องมือของเจ้าชายเท่านั้นแหละ ไสหัวกลับโลกไปซะ! (ความรัก ผจญภัย และสงคราม)

    ผู้เข้าชมรวม

    800

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    800

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    8
    จำนวนตอน :  7 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 ธ.ค. 63 / 17:43 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เขตุรอยต่อโอเจนเรล, ห้วงอวกาศ

    นักบินอวกาศกำลังขับเคลื่อนยานเข้าสู่ห้วงอันตรายอย่างโอเจนเรล ห้วงรอยต่ออันคุ้มคลั่งจากการระเบิดของดาวฤกษ์ซึ่งไม่สามารถระบุจำนวนได้พร้อมทั้งพวยพุ่งฝุ่นผงของจักรวาลออกมาอย่างไม่มีหยุดยั้งกำลังสร้างปัญหาให้แก่กัปตันและผู้ช่วยควบคุมยาน

    “เตรียมสารละลายแอนทิแกล็กดัสก่อนถึงยี่สิบจุดหนึ่งสามไมล์ข้างหน้า!” กัปตันสั่งการผ่านอุปกรณ์สื่อสารไปยังผู้ช่วยเพื่อเตรียมสารละลายบางอย่างขึ้น

    “แอนทิแกล็กดัสพร้อม!” ผู้ช่วยกัปตันรับทราบคำสั่งพร้อมกับเปิดระบบลำเลียงสารละลายจ่อไว้ยังท่อแรงดันใต้ตัวยาน

    “เรากำลังจะเข้าสู่ซูเปอร์โรเตชั่น ย้ำ ซูเปอร์โรเตชั่น” หัวหน้านักบินอวกาศแจ้งแก่ผู้ช่วยทั้งสอง

    “ทราบครับ/ทราบครับ” ผู้ช่วยกัปตันรับทราบขึ้นพร้อมกัน

    สารละลายแอนทิแกล็กดัสถูกปล่อยออกจากท่อลำเลียงเมื่อตัวยานลอยลำเข้าสู่ห้วงแรงกดดันถึงขั้นที่สามารถบดร่างของมนุษย์ให้แหลกละเอียดเป็นผุยผงภายในพริบตา แอนทิแกล็กดัสมีไว้เพื่อแผ้วถากทางให้พาหนะแสนล้ำนี้เคลื่อนผ่านกลุ่มก๊าซพิษและฝนโลหะร้อนซึ่งสามารถแผดเผาดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของโลกได้ภายในพริบตาเดียว

    กว่าจะเคลื่อนผ่านออกมานอกพื้นที่ห้วงอภิมหาภัยได้ ยานอวกาศได้เสียหลักพุ่งดิ่งออกนอกเส้นทางด้วยแรงผลักของกลุ่มก๊าซที่กดดัน เมื่อเสียการควบคุม ผู้เป็นกัปตันจำต้องควบคุมเพื่อนำพายานล่องลอยเข้าใกล้โคจรวิถีของระบบสุริยะซึ่งไร้ดาวฤกษ์เพื่อเลี่ยงอุณหภูมิร้อนเร่าของแรงเสียดทานอันมหาศาล

    “สารละลายเฮเตียเวียซ ย้ำ เฮเตเวียซ!” หัวหน้านักบินอวกาศสั่งด้วยสีหน้าอันสงบหากแต่ภายในใจนั้นหาได้สงบไม่

    “เฮเตเวียซพร้อม!” ผู้ช่วยกัปตันรับทราบ

    ระบบลำเลียงสารละลายเฮเตเวียซถูกปล่อยออกไปเบื้องหน้าก่อนที่ตัวยานจะพุ่งเข้าไปในห้วงอวกาศมืดดำอันหนาวเหน็บต่ำกว่าจุดเยือกแข็งถึงสองพันเท่า สารละลายได้เปลี่ยนสภาพภูมิอากาศในวิถีการบินให้อบอุ่นชั่วคราวไปเรื่อยๆ เพื่อมิให้ระบบการทำงานของยานอวกาศนั้นหยุดชะงักหรือหนืดพัง

    “แย่ล่ะรู้สึกตัวจนได้” แพทย์สาวซึ่งนั่งเคียงข้างร่างบอบบางภายใต้ชุดซึ่งถูกผลิตจากเส้นใยถ่วงน้ำหนักกล่าวขึ้น

    เปลือกตาบางใสของเด็กสาวกำลังปรือเปิด สาวน้อยอ้าปากรับออกซิเจนจากท่อหายใจซึ่งเชื่อมกับเครื่องผลิตออกซิเจนข้างกายและหายใจอย่างถี่รัว

    “ออกซิเจนกำลังจะหมด ออกซิเจนกำลังจะหมด!” แพทย์สาวสื่อสารแก่เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งควบคุมแผงวงจรสวัสดิการทั้งหมด

    “ทราบและพลังงานในการผลิตออกซิเจนกำลังจะหมด ขอให้หายใจช้าลง ย้ำ หายใจช้าลง” เจ้าหน้าที่สื่อสารกลับมาด้วยน้ำเสียงอันสงบ

    หัวหน้านักบินอวกาศรับทราบปัญหาจากเจ้าหน้าที่ทุกส่วนการควบคุม ชายวัยกลางคนกำลังพยายามหาช่องทางเพื่อร่อนยานลงจอด เขารับรู้ในใจว่าต่อให้หาทางนำยานลงจอดได้อย่างปลอดภัย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีออกซิเจนเพื่อใช้ในการหายใจบนสถานที่นั้นๆ แต่ในฐานะของผู้เป็นกัปตัน เขากำลังคิดว่าหากต้องสิ้นชีพ อย่างน้อยต้องพยายามสู้จวบจนวินาทีสุดท้ายนั้นได้มาถึง

    “หายใจช้าลง ย้ำ ต้องหายใจช้าลง!” หัวหน้านักบินอวกาศสั่งด้วยอุปกรณ์สื่อสารซึ่งเชื่อมกับระบบกระจายเสียงภายในตัวยานเพื่อแจ้งแก่ทุกชีวิต

    ไม่ใช่ทุกครั้งที่โอเจนเรลจะมีสภาพอากาศอันบ้าคลั่ง ดูเหมือนว่าพลังงานที่บรรจุขึ้นมานั้นกำลังจะหมดไปก่อนเวลาด้วยเพราะต้องเอาตัวรอดออกมาจากความเลวร้ายในเขตรอยต่อซึ่งเชื่อมกับสถานีอวกาศกลางระหว่างโลกและแบรกซโลว

    “หะ หายใจไม่ออก…” ดาวใสแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ด้วยความระโหยโรยแรงเต็มที

    เวลานี้ทุกคนหาได้พะวงกับการนำส่งเด็กสาวให้ถึงสถานีกลางไม่ ดูเหมือนว่าผู้เป็นกัปตันจะยอมรับในชะตากรรมแล้วว่าทุกคนจำต้องเตรียมพร้อมที่จะหมดลมหายใจ

    “หนูต้องรอด หายใจเอาไว้นะ!” แพทย์สาวร้องขึ้นพร้อมกับปลดล็อคแขนกลของที่นั่งซึ่งคาดเอวของตนออก

    “ไม่อย่าทำแบบนี้นะ ไม่!!!” ดาวใสร้องขึ้นผ่านอุปกรณ์สื่อสาร

    ด้วยจิตวิญญาณของผู้เยียวยา หญิงสาวผู้เดินทางขึ้นมาเหนือห้วงชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์อย่างโลกได้ทำการเชื่อมต่อเครื่องผลิตออกซิเจนของตนเข้ากับเครื่องผลิตอากาศของสาวน้อย แม้จะไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนวัตกรรมนัก หากแต่เธอได้ศึกษาและผ่านการทดสอบภาคปฏิบัติในการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขทุกส่วนประกอบของอุปกรณ์ภายในตัวยานมาเป็นอย่างดี

    “ฉัน! นางสาวประทุมวดี สัญญาชัย แพทย์ประจำTHA_01 ภาคภูมิใจที่ได้สละชีพเพื่อชาติค่ะ!” หญิงสาวยกมือขึ้นตะเบ๊ะทำความเคารพไปยังธงชาติไทยและยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะทิ้งตัวหงายล่องลอยอยู่ภายในท้องยาน

    “ฮึก ฮือ!!!” เด็กสาวโพล่งขึ้นทั้งน้ำตาอย่างสุดเสียงเมื่อเห็นว่าแพทย์สาวนั้นค่อยๆ หายใจรวยริน

    ขณะที่สาวน้อยกำลังกรีดร้องด้วยความตระหนกและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนอยู่นั้น ยานอวกาศขนาดเล็กได้พุ่งพรวดผ่านช่องว่างซึ่งผนังยานได้ถูกกร่อนโดยก๊าซพิษอานุภาพเกินประมาณได้ที่ปนอยู่ในความหนาวเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งสองพันเท่า

    “ไม่ไป!!”

    ดาวใสร้องขึ้นเมื่อถูกนำพาขึ้นสู่ยานลำเล็กนิรนามด้วยแขนกลซึ่งทำงานอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะอากาศซึ่งใช้หายใจนั้นแทบจะไม่เหลือแล้ว เด็กสาวจึงได้ค่อยๆ หมดสติไป

    เหล่าลูกเรือแน่นิ่งไร้สัญญาณชีพอยู่ภายในยานอวกาศลำมหึมา ไม่มีอะไรเหลือ พาหนะต้นทุนการผลิตมหาศาลกำลังล่องลอยเพื่อรอให้ก๊าซพิษและแรงกดดันอวกาศทำลายล้างหากเส้นใยเคลือบผนังด้านนอกนั้นถูกเผาไหม้ไปจนหมด

    :::-:::-:::-:::-:::-:::-:::-:::-:::-:::-:::

    แบรกซเออเธีย, สถานีอวกาศกลาง

    การสัญจรไปมาด้วยยานอวกาศขนาดคล่องตัวผ่านสถานีอวกาศกลางระหว่างแบรกซโลวและโลกนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเจ้าฟ้าหนุ่มรูปงามซึ่งมีพระนามเต็มว่าไคเดน เดแคลน แบรกซ์ ด้วยเพราะต้องเดินทางตรวจเยี่ยมไพร่ฟ้ายังต่างดวงดาวซึ่งเป็นดินแดนในปกครอง

    ร่างบอบบางงามถูกพาเข้ามายังห้องพักซึ่งเต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ สถานีอวกาศแห่งนี้สามารถกลั่นและสกัดทุกก๊าซภายนอกให้เป็นออกซิเจนได้ อีกทั้งสามารถปลูกพืชเพื่อบริโภคได้อย่างไม่ต้องอาศัยขั้นตอนที่ซับซ้อนเพราะเหล่าดาวฤกษ์นั้นระเบิดหรือดาวเคราะห์ถูกพุ่งชนแตกกระจัดกระจายได้สร้างฝุ่นผงล่องลอยมาตามห้วงอวกาศให้ช้อนเก็บและคัดแยกหาอินทีสารในการเพาะปลูก

    “น้ำ…” ชาวโลกตัวเล็กบางเพ้อหาของเหลว

    ระบบแปลภาษาของชาวดาวเคราะห์และดวงดาวบริวารซึ่งถูกฝังอยู่ในกระบวนการคิดผ่านอิเล็กทรอไลฟ์เชื่อมกับสมองของไคเดนกำลังทำงานและรับรู้ได้ว่าสาวน้อยนั้นต้องการสิ่งใด

    ชายหนุ่มออกคำสั่งแก่หุ่นยนต์รับใช้ในฐานะผู้อำนวยการสถานีกลางให้นำน้ำสะอาดเข้ามายังห้องรับรองแขกจากต่างมาตุภูมิในทันที

    ไคเดนตรงมายังเตียงซึ่งไม่กว้างนักพร้อมกับออกคำสั่งให้ส่วนของหัวเตียงนั้นเคลื่อนสูง เด็กสาวจึงสามารถดื่มน้ำได้โดยสะดวกมากขึ้น

    ดาวใสจับจ้องแก้วน้ำโลหะรูปทรงสี่เหลี่ยมซึ่งมีมือของหุ่นยนต์รับใช้กระชับเอาไว้ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นจับจ้องเรียวหน้าขาวราวกับงาช้างและกลุ่มผมสลวยสีน้ำตาลเข้มของเจ้าฟ้าหนุ่มรูปงาม สาวน้อยจำแววตาของผู้ที่ให้ความช่วยเหลือตนได้ หากแต่กลับน้ำตาคลอพร้อมกับคว้าแก้วโลหะจากหุ่นยนต์รับใช้แล้วฟาดเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่ม

    “มีการประทุษร้าย มีการประทุษร้าย” หุ่นยนต์รับใช้ส่งสัญญาณไปยังหุ่นยนต์ผู้ปกป้องด้านหน้าห้องรับรอง

    “ไม่เป็นไร” ไคเดนปรามด้วยการออกคำสั่งให้หยุดผ่านคลื่นสมอง

    เด็กสาวขยับกายเข้าไปชิดกับผนังห้องพร้อมมองผ่านกระจกใสพิเศษไปยังห้วงอวกาศอันแสนมืดและสามารถมองเห็นได้เพียงประกายเสียดสีความหนาแน่นของบรรยากาศ รวมถึงฟ้าผ่าจากแรงกดดันของดวงอาทิตย์ก่อเกิดเป็นพายุร้ายมวนวนอยู่เป็นระยะ เธอกำลังตระหนกกับสิ่งซึ่งไม่เคยพบพานนี้ ทุกอย่างช่างผิดไปจากที่ๆ เคยอยู่อาศัยแลใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิง

    “ทำไมไม่ช่วยคนอื่นด้วย!” ดาวใสหันกลับทางเดิมด้วยดวงหน้าแสนซีดแลกายสั่นเครือด้วยความกลัวขั้นรุนแรง

    “มนุษย์พวกนั้นตายก่อนหน้าที่ฉันจะเข้าไปช่วยเธอนานกว่าสิบนาที” ร่างสูงสง่ากล่าวขณะใช้ลิ้นกวาดเลียโลหิตสีฟ้าอ่อนที่มุมปากของตนซึ่งถูกเหลี่ยมขอบแก้วกระทุ้งบาดด้วยท่าทีสงบ

    “ไม่จริงหรอกคุณอยากให้พวกเขาตายคุณมันเป็นสัตว์ประหลาด!” สาวน้อยโพล่งขึ้นหลังจากสังเกตได้ว่าโลหิตของเขาไม่ใช่สีแดง

    “สัตว์..ประหลาด” ไคเดนทวนคำของเธอพร้อมกับประมวลผลด้วยระบบอิเล็กทรอไลฟ์ภายในสมอง

    เมื่อรับรู้ได้ว่าเด็กสาวนั้นหมายความว่าเช่นไร ชายหนุ่มถึงกับมีนัยน์ตาแข็งกร้าวทันควัน จากเดิมที่เยือกเย็นอยู่แล้ว เวลานี้ยิ่งแล้วใหญ่

    “ฮื้อสัตว์ประหลาด!”

    เจ้าฟ้าหนุ่มรูปงามกระชากข้อมือเล็กนิ่มของเธอให้ร่างบอบบางโผเข้ามาประชิดกับตนก่อนจะจ้องลงไปในดวงตาคู่กลมใสและรูปทรงซึ่งรับกันในทุกสัดส่วนบนดวงหน้าพริ้มเล็กราวกับสตรีผู้มีรูปโฉมงดงามในภาพเขียนประจำหอสมุดแห่งแบรกซโทเมเนีย หากแต่ต่างไปด้วยเพราะดาวใสนั้นมีร่องรอยของสีชมพูตามเนื้อผิว เพียงแต่เวลานี้เธอกำลังซีดกลัว

    “สัตว์ประหลาดสำหรับมนุษย์คือสิ่งชั่วร้ายสินะ” ไคเดนกล่าวหลังจากที่สมองประมวลผลด้านภาษาตามคำสั่งทางความคิดที่เขาต้องการไต่ถามออกมาเป็นคำพูด

    “ใช่!” เสียงน้อยๆ โพล่งออกไปทันควันแล้วเบะปากน้ำตาคลอ

    ชายหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทีใดในตอนนี้ เขากำลังพินิจพิจารณาว่าคนกำลังมีน้ำตานั้นผ่านช่วงเวลาตระหนกและหวาดกลัวมาอย่างหนัก ยิ่งสาวน้อยนั้นสะอื้น ยิ่งทำให้ไคเดนรับรู้ได้ว่าเธอกำลังเศร้าโศกอยู่ภายในใจพลางรู้สึกโดดเดี่ยวในคราวเดียวกัน แม้สีเลือดจะแตกต่างกัน หากแต่เขานั้นก็เป็นอีกหนึ่งเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์

    “ท่านครับเจ้าหน้าที่ประจำเส้นทางโคจรของยานอวกาศจากดาวเคราะห์มายังแบรกซเออเธียได้เข้าตรวจสอบยานลำล่าสุดก่อนจะแตกสลาย ทีมตรวจสอบได้ระบุว่ายานลำนั้นคือพาหนะนำส่งตัวแทนแห่งดาวโลกมายังเราในโครงการแบรกซโตวตันซึ่งมีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะผ่านเข้ามาครับ” มนุษย์กลหรือหุ่นยนต์หัวหน้าฝ่ายคมนาคมและสื่อสารประจำสถานีวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาแล้วรายงานแก่เจ้าฟ้าหนุ่มซึ่งเป็นผู้อำนวยการสถานที่แห่งนี้ด้วยภาษาแบรกซโลวแล้วเร่งรุดออกไปประจำหน้าที่

    ไคเดนเอี้ยวหน้าเพียงเล็กน้อยเพื่อเงี่ยฟังแล้วหันกลับมาจับจ้องดวงหน้าอ่อนสะอาดบริสุทธิ์ของดาวใสทันที ร่างนิ่มละมุนไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้านแรงมือของเขาขณะที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด เจ้าชายรูปงามรู้ดีว่าโครงการแบรกซโตวตันคืออะไร

    “ปล่อยนะสัตว์ประหลาด!” สาวน้อยโพล่งตัดพ้อพร้อมกับสบสายตาสีน้ำตาลเข้มของร่างสูงสง่าพลางขืนข้อมือด้วยหวังจะดึงกลับแล้วหลุดพ้น

    “ถ้าการมีเลือดสีฟ้าทำให้พวกเราดูชั่วร้าย งั้นถ้าชาวแบรกซโลวจะมองว่าพวกที่มีเลือดสีแดงเป็นพวกผิดบาปก็คงไม่ผิด” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยท่าทีอันเย็นยะเยือกนัยน์ตาทึบหม่นขึ้นมาพร้อมกับกระชากคนกำลังผวากลัวและเสียใจเข้ามาใกล้จนสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเธอ

    “มะ ไม่จริง!” เสียงนุ่มเล็กร้องเพื่อโต้แย้งขึ้นทันควันแล้วเบะปากสะอื้นกลัวแววตาของร่างอกผายไหล่ผึ่งน่าเรงขาม

    “และถ้าเดาไม่ผิดเธอก็ไม่ได้มีเลือดสีแดงหรือสีฟ้าอ่อน อย่าริมาตัดสินเผ่าพันธุ์ของฉัน!!” ไคเดนสบสายตากลมใสของเด็กสาวพลางกล่าวด้วยท่าทีเย็นชาปริ่มว่าจะกัดกลืนกินให้สิ้นชีวาก่อนจะตะคอกด้วยน้ำเสียงกร้าวทุ้มเปี่ยมไปด้วยศักดา

    “ฮึก..จะตายให้ดู!” ดาวใสสะอื้นหนักพร้อมกล่าวขณะพยายามดิ้นรนทัดทานแรงมือของเจ้าฟ้าหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยพละกำลังแลอำนาจมาดว่าคล้ายปิศาจกรงเล็บฉกรรจ์ก็ไม่ปาน

    ไคเดนนิ่งจ้องคนกำลังสะอึกสะอื้นโดยไม่แสดงอารมณ์ใดออกมาแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ชายหนุ่มกลับไร้ท่าทีสงสารหรือเห็นใจแลนึกไปถึงสัตว์เลี้ยงขนฟูของผู้เป็นมารดาเมื่อเห็นว่าร่างเล็กอรชรนั้นกำลังดิ้นรนต่อต้านและฟูมฟาย ชีวิตน้อยๆ นี้ช่างเป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือขอบเขตชีวิตของเขายิ่งนัก

    อะไร..ขืนปล่อยเข้าโครงการตอนนี้มีหวังได้พังกันเป็นแถบแน่ถ้าเกิดตายขึ้นมา ไม่ได้ ต้องเก็บเอาไว้ที่ไหนซักที่ก่อน เจ้าฟ้าหนุ่มรูปงามกล่าวในใจ

    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

    P.s งานเขียนทุกชิ้นมีกฎหมายคุ้มครอง กรุณาไม่คัดลอก ดัดแปลงหรือทำซ้ำนิยายของเมล่อนเมย์นะคะ รีดท่านใดพบเห็นและหากไรท์ทราบ ขออนุญาตดำเนินการตามกฎหมายค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจกันนะคะ


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น